วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ



เศรษฐกิจพอเพียงตามทฤษฏีใหม่ตามแนวพระราชดำริ
 จากปรัญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน  ได้มีผู้นำแนวคิดไปปฏิบัติจำนวนมาก  โดยเฉพาะเกษตรกร  ได้นำ หลักการเศรษฐกิจพอเพียง ไปปฏิบัติควบคู่กับ หลักการเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งเป็นแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันที่มุ่งให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน  คือ  ยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของคนในชนบทโดยยึดหลักการพัฒนาการเกษตรแบบผสมผสาน  และมีความชัดเจนในการกำหนดพื้นที่  โดยมีขั้นตอนและตัวอย่างในการปฏิบัติเป็นรูปธรรม 
      เศรษฐกิจพอเพียง  เป็นปรัชญาชี้แนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ  ตั้งแต่ระดับครอบครัว  ระดับชุมชน  จนถึงระดับรัฐ  ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง  โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์  ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ  ความ มีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควรต่อการมีผล กระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน  ทั้งนี้  จะต้องอาศัยความรอบรู้  ความรอบคอบ  และความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอน  และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ  โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ  นักทฤษฎี  และนักธุรกิจในทุกระดับให้มีสำนึกในคุณธรรม  ความซื่อสัตย์สุจริต  และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม  ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน  ความเพียร  มีสติปัญญา  และความรอบคอบ  เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ  สังคม  สิ่งแวดล้อม  และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี

  ขั้นตอนการปฎิบัติตามหลักการเศรษฐกิจพอเพียงและหลักการเกษตรทฤษฎีใหม่
    การปฎิบัติตามหลักการเศรษฐกิจพอเพียงและหลักการการเกษตรทฤษฎีใหม่  มีขั้นตอนดังนี้
        ขั้นที่ ๑ เป็นขั้นตอนตาม “หลักการเกษตรทฤษฎีใหม่” ซึ่งให้ความสำคัญในการแบ่งพื้นที่ให้ประชาชนในชนบทดำรงชีวิตได้อย่าง “ พอเพียง พอกิน” โดยดำเนินการดังนี้
๑.      แบ่งพื้นที่ออกเป็น ๔ ส่วน
๒.    ใช้พื้นที่ ๓ ส่วนแรกในการเก็บกักน้ำ  และทำการเกษตร
๓.     ใช้พื้นที่ส่วนที่ ๔ สำหรับเป็นที่อยู่อาศัย
ขั้นที่ ๒ เกษตรกรจะรวมพลังในรูปของกลุ่มหรือสหกรณ์  เพื่อร่วมแรงกันในเรื่องของการผลิต  การตลาด ความเป็นอยู่ สวัสดิการ ตลอดจนเรื่องการศึกษาและสังคม  ด้วยความร่วมมือของหน่วยราชการ  มูลนิธิและเอกชน
ขั้นที่ ๓ เกษตรกรร่วมมือกับวิสาหกิจในชุมชน  อาทิ ธนาคาร บริษัทน้ำมัน ฯ เพื่อก่อตั้งและบริหารโรงสี ร้านสหกรณ์ เมื่อกิจการมีความมั่นคงอาจขยายผลเป็น “ บริษัทหมู่บ้าน...จำกัด “
         ตัวอย่างของการแบ่งพื้นที่ตามหลักการเกษตรทฤษฎีใหม่
        โดยเฉลี่ยเกษตรกรไทยมีพื้นที่ถือครองครอบครัวละ ๑๐-๑๕ ไร่ เพื่อให้เกิดผลผลิตรวมดีขึ้น จึงควรแบ่งพื้นที่ทั้งหมดออกเป็นสัดส่วนดังนี้
         ส่วนที่ ๑:  ร้อยละ ๓๐ ของพื้นที่ ใช้เป็นพื้นที่สำหรับขุดสระน้ำหรืออ่างเก็บน้ำโดยให้มีความลึกเพียงพอที่จะบรรจุน้ำไว้ประมาณ ๑๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร เพื่อกักเก็บน้ำในฤดูฝนไว้ใช้ในฤดูแล้ง จะได้ทำการเพาะปลูกได้ตลอดปี
        ส่วนที่ ๒:  ร้อยละ ๓๐ ของพื้นที่ ใช้เป็นพื้นที่สำหรับทำไร่ ทำนา และปลูกข้าว
        ส่วนที่ ๓:  ร้อยละ ๓๐ ของพื้นที่  ใช้เป็นพื้นที่สำหรับปลูกไม้ผล หรือทำไร่นาสวนผสม
 
             ส่วนที๔:  ร้อยละ๑๐  ของพื้นที่  ใช้เป็นพื้นที่สำหรับอยู่อาศัย  สร้างคอกสัตว์  ทำคันนา  ปลูกพืชผักสวนครัว  ทำถนน
สร้างที่เก็บอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อการเกษตร
             การทำพื้นที่๓  ส่วนแรกจะให้ประโยชน์และคุณค่าแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และความสามารถ
ในการบริหารจัดการ เช่นถ้ามีพื้นที่มาก ก็สามารถผลิตได้มากเกินความต้องการและถ้ามีความสามารถในการจัดเก็บได้ดี  สามารถหาตลาดเพื่อการจำหน่ายได้  ก็จะสามารถเพิ่มรายได้แก่เกษตรได้มาก

       ผลดีของการเกษตรทฤษฏีใหม่
       การนำหลักการเกษตรทฤษฏีใหม่มาใช้ในการเกษตร  จะก่อให้เกิดการพัฒนาชนบทอย่างยั่งยืนตามหลักการเศรษฐกิจพอเพียง  โดยก่อให้เกิดผลดีต่อเกษตรและสังคมโดยรวมดังนี้
๑.      พื้นที่ส่วนที่๑ คือบ่อเก็บกักน้ำ  สามารถลดและแก้ปัญหาภัยแล้งได้
๒.     เป็นการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ  ไม่มีการปล่อยวาง   แล้วผลิตหมุนเวียนตามลักษณะพืชแต่ล่ะชนิด
๓.     ผลผลิตที่ได้หลากหลาย  พอเพียงแก่การบริโภคในครัวเรือน  อาจมากพอสำหรับการบริโภคทั้งปี
๔.     ทำให้เกษตรมีรายได้เพิ่มขึ้น
๕.     ทำให้เกษตรมีงานทำตลอดทั้งปี
๖.     เมื่อไม่มีเวลาว่าง  ทำให้ไม่มีเวลาในการเล่น เสพ และการบันเทิงที่อาจเกิดปัญหาชวิตและครอบครัว
๗.     ผลต่อประเทศโดยตรง ในอันที่จะช่วยให้ประเทศมั่นคง
๘.     เกิดการพัฒนาประเทศแบบยั่งยืน

1 ความคิดเห็น:

  1. *_ขออนุญาตโพสนะครับ_* จำหน่ายกล้าพันธุ์ไม้ป่าทุกชนิด ทุกสายพันธุ์ อาทิเช่น สักทอง ยางนา พะยูง ประดู่
    มะค่า ตะเคียน ราคาไม่แพง จำหน่ายทั้งปลีกและส่งทั่วประเทศ ผลงานเป็นที่ประจักษ์ทั่วประเทศกว่ายี่สิบปี
    สนใจติดต่อคุณไก่ 095-4654546 ,0946465654
    ID line kai54654546
    Email nangpaya@hotmail.com
    ชมผลงานและคุณภาพกล้าพันธุ์ไม้ได้ที่ www.takuyak.com
    หรือที่แฟนเพจ คุณไก่กล้าพันธุ์ไม้
    หรือชมคลิปที่ www.youtube.com ช่อง ชัยชนะ เสือเพ็ง
    หรือที่แฟนเพจ ชมรมเกษตรกรผู้ปลูกไม้พะยูงแห่งประเทศไทย

    ตอบลบ